ปวดหลัง
อาการปวดหลังเป็นการแสดงออกถึงความผิดปกติของโครงสร้างบริเวณหลัง บั้นเอว ก้นกบและสะโพก มีอาการปวดหลังเพียงเล็กน้อยจนถึงขึ้นปวดรุนแรง อาจมีหรือไม่มีอาการปวดร้าวลงขาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้าง อาจมีหรือไม่มีอาการชาขาร่วมด้วย
มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐที่ยืน เดิน และทรงตัวด้วยเท้า 2 เท้า ในท่าลำตัวตรง ผิดกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมชนิดอื่นที่ยืน เดิน และทรงตัวด้วยเท้า 4 เท้า แนวกระดูกสันหลังอยู่ในแนวนอนไม่ต้องแบกรับน้ำหนักตัวของตัวเอง จึงไม่มีปัญหาเรื่องปวดหลังมากมายนัก แต่ความที่มนุษย์ทรงตัวในแนวตั้ง กระดูกสันหลังต้องแบกรับน้ำหนักตัว เป็นสาเหตุให้เกิดความผิดปกติของโครงสร้างบริเวณหลังได้ง่าย เช่น น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น การยกของหนัก แบกรับของที่หนักเกินตัว ความอ่อนแอของร่างกายที่ขาดการออกกำลังกาย ความเสียสมดุลย์ในบุคลิกภาพ เช่น ความผิดปกติของขาทั้ง 2 ข้าง ยาวไม่เท่ากัน ความอ่อนแอของขา ความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกสันหลัง เชิงกราน ก้นกบ ข้อสะโพก ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุของการเกิดอาการปวดหลังได้ทั้งสิ้น นอกจากนี้ภาวะเครียดทางจิตใจ การพักผ่อนไม่เพียงพอ เก้าอี้รวมถึงที่นอนไม่ถูกสุขลักษณะล้วนแล้วแต่เป็นต้นเหตุการเกิดอาการปวดหลังได้ทั้งสิ้น ดังนั้นสาเหตุการปวดหลังที่มีมากมาย จะยกตัวอย่างบางโรคที่ก่อให้เกิดอาการปวดหลังและพบได้บ่อยมีดังนี้
- กล้ามเนื้อหลังเกร็งตัว หรือกล้ามเนื้อหลังอักเสบ เกิดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อหลัง บริเวณบั้นเอวเกร็งตัวหรือการระบบของเส้นใยของกล้ามเนื้อหลัง มักเกิดจากการผิดท่าผิดหลักในการเคลื่อนไหวลำตัว การยกของหนัก การเล่นกีฬา หรือออกกำลังกายผิดท่าผิดจังหวะ น้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น เก้าอี้ ที่นอนที่ไม่ถูกสุขลักษณะของโครงสร้างหลัง ภาวะเครียดกังวลเกินไป รวมถึงการมีประจำเดือนของสตรี มีผลให้เกิดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อหลังได้
- กระดูกหลังเสื่อมตัวจากวัยอายุที่มากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น (ส่วนใหญ่มักเกิดกับหญิงหรือชายที่มีอายุเกิน 40 ปี) พบในสตรีมากกว่าบุรุษ ความเสื่อมตัวของกล้ามเนื้อ พังผืด เส้นเอ็น หมอนรองกระดูกสันหลัง รวมถึงกระดูกสันหลัง การเสื่อมตัวของกระดูกสันหลังมีตั้งแต่กระดูกบางลงจาการสูญเสียแคลเซียมในร่างกาย กระดูกผุ กร่อน มีหินปูนเกาะกระดูก รวมถึงการทรุดตัวของแนวกระดูกสันหลัง ทำให้เกิดการรบกวนต่อรากประสาทที่ออกจากแนวประสาทไขสันหลัง หรือเกิดการกดทับต่อรากประสาท (ชาวบ้านเรียกว่า “กระดูกทับเส้น”) เกิดอาการปวดหลังและปวดร้าวลงขาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้ง 2 ข้างร่วมกับอาการชาที่ขาด้วย
- หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน ความเสื่อมของหมอนรองกระดูกสันหลัง การเกิดอุบัติเหตุกระทบกระแทกบริเวณหลัง หรือกระดูกเชิงกราน การผิดท่าจากการยกของหนักเกินตัว มีโอกาสให้เกิดหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนตัวจากจุดปกติไปรบกวน หรือกดทับรากประสาท หรือเส้นประสาทหลังได้ เกิดอาการปวดหลังรุนแรง ปวดร้าวและอาการชาลงขา หากรุนแรงมากอาจมีขาอ่อนแรงร่วมด้วย
- การเกิดอุบัติเหตุทางจราจร หรืออุบัติเหตุการหกล้มที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บต่อบริเวณหลัง อุบัติเหตุรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ตกบันได ลื่นล้มในห้องน้ำ บาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ตกจากที่สูง ฯลฯ ล้วนแล้วแต่เป็นต้นเหตุเกิดการเสียหายต่อกล้ามเนื้อ กระดูกสันหลังอาจร้าวหรือแตกหักได้
- เนื้องอกหรือมะเร็งต่อกระดูกสันหลัง หรือประสาทไขสันหลังส่วนบั้นเอว ปัจจุนบันพบเนื้องอกหรือมะเร็งต่อประสาทไขสันหลัง และ/หรือกระดูกสันหลังส่วนบั้นเอวมากขึ้นทุกปี ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน แต่สันนิษฐานว่ามาจากสารพิษ (Toxin) จากอาหารการกินและสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษเพิ่มมากขึ้น ภาวะเครียดทางจิตใจและกายที่พักผ่อนไม่เพียงพอ
การดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ทำจิตใจให้ผ่อนคลายช่วยป้องกันและแก้ไขความผิดปกติของหลังส่วนบั้นเอวนี้ได้ การดื่มน้ำไอวอเตอร์ช่วยป้องกันและลดอาการปวดหลังให้ทุเลาเบาลงได้ เมื่อมีอาการผิดปกติ ปวดหลังควรได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ว่ามีสาเหตุจากอะไร เพื่อการรักษาที่ถูกต้องต่อไป
อย่าลืม.!! ดื่มน้ำไอวอเตอร์ทุกวัน เพื่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีครับ