งูสวัดกับน้ำนาโน


โรคงูสวัดเป็นโรคเก่าแก่เคยได้ยินได้ฟังมาตั้งแต่สมัยยังเด็กอยู่ จะเข้าสู่วัยผู้สูงอายุยังคงได้รู้เรื่องราวของโรคงูสวัดอยู่ งูสวัดเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อไวรัสวาริเซลลา ซอสเตอร์ (Varicella Zoster Virus - VZV) เป็นเชื้อไวรัสกลุ่มเดียวกันกับเชื้อไวรัสในโรคอีสุกอีใส โรคนี้มักเกิดจากการติดต่อทางเดินหายใจและการสัมผัสกับตุ่มของโรคงูสวัดบริเวณผิวหนังของผู้ป่วยโรคนี้ เมื่อเชื้อวาริเซลลา ซอสเตอร์ ไวรัสเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะเจริญเติบโตรวดเร็วปรากฎอาการบริเวณผิวหนังของร่างกาย
โดยปกติแล้วเชื้อไวรัสงูสวัดนี้ เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วมักจะฟักตัวอยู่ตามปมประสาทของร่างกาย อาจฟักตัวอยู่เป็นเวลานาน เมื่อร่างกายอ่อนแอ ภูมิต้านทานต่ำ โรคงูสวัดจะแสดงอาการตามผิวหนังเป็นตุ่มน้ำใสๆไปตามเส้นประสาท ชายโครง มือ ไหล่ และแขน รวมทั้งใบหน้า อาการเริ่มแรก จะปวดแสบปวดร้อนตามชายโครง แขน ไหล่ รวมทั้งใบหน้าซีกใดซีกหนึ่ง ทำให้คนป่วยเข้าใจผิดคิดว่าเป็นกล้ามเนื้ออักเสบหรือตึงเส้น บางรายอาจมีไข้ร่วมด้วย หลังจากนั้นไม่นานมีตุ่มน้ำใสๆเกิดขึ้นที่ผิวหนังตามแนวของเส้นประสาทฝอย ที่ทอดไปตามแนวกล้ามเนื้อ มักปรากฎรอยแดงที่ชายโครง ไหล่ แขน มือ และใบหน้าซีกใดซีกหนึ่ง มีอาการคัน ปวดแสบปวดร้อนตามแนวเส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อนั้นๆ เมื่อรุนแรงขึ้นจะบวมปูดขึ้นเป็นแนวตามชายโครง ไหล่ แขน มือ และใบหน้าได้ อาการปวดกล้ามเนื้อตลอดแนวเส้นประสาทจะรุนแรงมากขึ้น ผู้ป่วยบางรายมีอาการชาร่วมด้วย หากมีอาการดังกล่าวข้างต้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยให้ถูกต้อง
การรักษาโรคงูสวัด
แพทย์จะให้ยาทาบริเวณผิวหนังที่เชื้อไวรัสงูสวัดกำเริบรวมทั้งยารับประทานร่วมด้วย ผู้ป่วยต้องพักผ่อนให้มากขึ้น เพื่อร่างกายได้ปรับภูมิต้านทานที่แข็งแรงขึ้นจนสามารถต้านเชื้อไวรัสงูสวัดได้ ปกติโรคงูสวัดนี้จะไม่หายขาด เนื่องจากเชื้อไวรัสนี้มักไปแอบแฝงและฟักตัวอยู่ตามปมประสาทของร่างกาย เช่นเดียวกับเชื้อไวรัสเริม และเชื้อไวรัสเอดส์ เมื่อไรที่ร่างกายแข็งแรง เชื้อไวรัสงูสวัดจะฟักตัวแอบแฝงอยู่ในระบบระสาทของร่างกาย และเมื่อไรที่ร่างกายอ่อนแอ เช่น พักผ่อนน้อย ทำงานหนักขึ้น มีเรื่องคิดและกังวล เครียดมากขึ้น รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา ดื่มน้ำน้อย ขาดการออกกำลังกาย เชื้อไวรัสงูสวัดจะกำเริบและปราฏอาการให้เห็นชัดเจนขึ้น ดังนั้นการดูแลร่างกายให้แข็งแรง เสริมสร้างภูมิต้านทานให้แข็งแรงเป็นเรื่องจำเป็นที่จะสกัดให้โรคงูสวัดสงบอาการได้
การดูแลร่างกายให้แข็งแรงเพื่อเสริมภูมิต้านทานร่างกายแข็งแรง การดื่มน้ำไอวอเตอร์ (Nano Mineral Water) เป็นทางเลือกหนึ่งที่มีส่วนช่วยป้องกันและซ่อมแซม ฟื้นฟูโรคงูสวัดให้สงบอาการลงได้ ควรดื่มน้ำไอวอเตอร์ให้ได้วันละ 8 – 10 แก้ว (2 – 2.5 ลิตร) สำหรับบุคคลทั่วไป ยกเว้นผู้ป่วยที่ป่วยด้วยโรคหัวใจ โรคไตวาย และโรคน้ำท่วมปอด คงต้องจำกัดน้ำดื่มตามที่แพทย์ผู้รักษากำหนด
คุณสมบัติน้ำไอวอเตอร์ 3 ประการ มีส่วนช่วยเสริมร่างกายแข็งแรงดังนี้
- กลุ่มน้ำโมเลกุลเล็ก (Nano Water) ช่วยส่งเสริมระบบเผาผลาญพลังงานร่างกาย (Metabolism) ทำงานได้อย่างมีประสิทธิ และต้านสารอนุมูลอิสระของร่างกาย ช่วยส่งเสริมให้ภูมิต้านทานร่างกาย (Immune System) แข็งแรงขึ้น ส่งผลให้ต้านเชื้อไวรัสงูสวัดสงบอาการได้
- ปริมาณออกซิเจนมากในน้ำไอวอเตอร์ ก่อให้เกิดการซ่อมแซมและฟื้นฟูโรคภัยไขเจ็บร่างกาย ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถฟื้นฟูแนวเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ ผิวหนังที่เสียหายจากเชื้อไวรัสดังกล่าวให้กลับสู่สภาพปกติได้ อาการตุ่มน้ำ ปวด ชา คัน ที่ผิวหนังและกล้ามเนื้อดีขึ้น
- แร่ธาตุที่มากชนิดเสริมการทำงานของอวัยวะและระบบต่างๆของร่งกายแข็งแรงขึ้น
ดังนั้นการดื่มน้ำไอวอเตอร์มีส่วนช่วยป้องกันและสงบอาการของโรคงูสวัดได้ ขอความสุขกาย – สบายใจมีต่อผู้อ่านทุกท่านครับ