สาเหตุท้องผูก ...และอาหารแก้ท้องผูก

อาการท้องผูก คือ มีการถ่ายอุจจาระน้อยผิดปกติ ประมาณ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ถ่ายเป็นก้อนแข็งขึ้น หรือเป็นก้อนที่เล็กลง โดยทั่วไปเราจะพบผู้หญิงมีอาการท้องผูกมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยกลางคนขึ้นไป และอีกกลุ่มหนึ่งที่พบบ่อยคือคนอายุ 60-65 ปีขึ้นไป อาการท้องผูกแม้จะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่มักสร้างปัญหาในชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วไป ซึ่งหากเกิดขึ้นบ่อยๆ และมีอาการเรื้อรัง จะมีโอกาสเป็นรีดสีดวงทวารและอาจร้ายแรงถึงมะเร็งลำไส้ได้ อาการท้องผูกอาจมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ซึ่งสามารถจำแนกออกได้เป็น 3 ข้อ ดังนี้
1) เกิดจากพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน
คนส่วนใหญ่ไม่ชอบทานอาหารที่ย่อยง่ายและอาหารที่มีกากใย เช่น ผัก ผลไม้ ชอบเลือกทานแต่อาหารจำพวกเนื้อสัตว์ อาหารไขมันสูง อาหารจากแป้งสาลี อาหารที่ย่อยยาก ดื่มน้ำน้อยเกินไป และไม่ชอบการออกกำลังกาย ไม่ชอบขยับตัว ชอบนั่งทำงานอยู่กับที่ ไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวร่างกาย ทำให้ลำไส้บีบตัวน้อย ส่งผลให้อาการท้องผูกตามมานั่นเอง นอกจากเรื่องกินแล้วยังมีสาเหตุอื่นที่ทำให้ท้องผูกได้ด้วย เช่น ความเคร่งเครียดในชีวิตประจำวัน การนั่งรถนานๆ การเดินทางไกล การใช้ที่สวนทวารบ่อยครั้ง เป็นต้น ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เพื่อหลีกเลี่ยงอาการท้องผูก เช่น เลือกทานอาหารที่ย่อยง่าย และทานผักและผลไม้เป็นประจำ ควรดื่มน้ำให้ได้ 6-8 แก้วต่อวัน และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ฝึกนั่งสมาธิ ลดความเครียด ทำจิตใจให้เบิกบาน แจ่มใส ฯลฯ
2) การใช้ยา
ยาบางชนิดที่เราทานเข้าไปรักษาโรคบางอย่าง อาจส่งผลข้างเคียงให้เกิดอาการท้องผูกได้ เช่น ยาคลายเคลียด ยาแก้โรคซึมเศร้า ยาแก้ความดันสูง ยาลดกรด รวมทั้งอาหารเสริมจำพวกธาตุเหล็ก และยาแก้ปวดที่มีสารประกอบโคเดอีน (Codeine) เป็นต้น ซึ่งยาเหล่านี้ทำให้การย่อยอาหารช้าลง ส่งผลให้เกิดอาการท้องผูกได้
3) มีโรคประจำตัว
อาการท้องผูกอาจเป็นอาหารหนึ่งของโรคประจำตัวที่เป็นอยู่ เช่น โรคเบาหวาน หรือมีก้อนเนื้องอก มีมะเร็งอุดตันลำไส้ เป็นต้น ผู้ที่มีโรคประจำตัวเหล่านี้ จะมีการถ่ายอุจจาระลำบาก และมีอาการท้องผูกได้เช่นกัน
อาหารแก้ท้องผูก
อาหารหลายชนิดมีฤทธิ์ช่วยให้ระบาย แก้อาการท้องผูก ทำให้การขับถ่ายเป็นไปด้วยดี รายการอาหารแก้ท้องผูกมีดังนี้
1) มะขามเปียก นอกจากมะขามเปียกจะมีกากใยอาหารแล้ว ด้วยรสเปรี้ยวที่มีฤทธิ์ช่วยให้ระบายอ่อนๆ หากมีอาการ้องผูกรุนแรงแนะนำให้นำมาขยำกับน้ำสะอาดต้มสุกประมาณ 3 แก้ว จะได้น้ำมะขามเปียกข้นๆ เติมเกลือลงไป 1 ช้อนชา แล้วดื่มให้หมดก่อนนอนประมาณ 1-2 ชั่วโมง หากไม่ชอบดื่มแบบเป็นน้ำ ก็สามารถนำมะขามเปียกจิ้มเกลือทานสัก 5-10 ฝัก แล้วดื่มน้ำตามมากๆก็ช่วยได้เช่นกัน
2) มะขามแขก มีฤทธิ์เป็นยาระบายเช่นกัน โดยใช้ใบแห้ง 1-2 หยิบมือ หรือใช้ฝัก 4-5 ฝัก หักเป็นชิ้นเล็กๆ ต้มกับน้ำสะอาด 1 ถ้วย นาน 15 นาที ใช้ดื่มก่อนนอน หากมีอาการแน่นจุกเสียดให้ใช้ร่วมกับยาขับถ่าย เช่น ขิงแก่ กระวาน หรือกานพลู เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่มีอาการท้องผูกเป็นประจำ แต่ถึงกระนั้นก็ควรระวัง อย่ารับประทานมะขามแขกติดต่อกันนานเกินไป ควรใช้รักษาอาการท้องผูกเป็นครั้งคราวเท่านั้น เพราะจะทำให้ขาดธาตุโพแทสเซียม และทำลายระบบประสาทที่ควบคุมการบีบตัวของลำไส้ได้
3) ลูกพรุนแห้ง เป็นผลไม้ที่มีกากใยอาหารสูงมาก สามารถรับประทานได้ทั้งผลหรือแบบเป็นน้ำลูกพรุนก็ได้ ควรรับประทานเวลากลางคืนก่อนเข้านอน ไม่ควรรับประทานมากหรือบ่อยเกินไป เพราะถึงแม้จะมีกากใยอาหารมาก แต่ก็มีปริมาณน้ำตาลที่สูงมากเช่นกัน ดังนั้นผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงอยู่แล้วควรหลีกเลี่ยง
4) แอปเปิลเขียว ใน 1 ผล ให้กากใยอาหารมากถึง 4.4 กรัม มีประมาณน้ำตาลน้อย ที่สำคัญไม่ควรปอกเปลือกทิ้ง เพราะเป็นแหล่งรวมของการใยอาหาร สามารถรับประทานได้ทั้งผลหรือนำมาปั่นทั้งกากดื่มก็ได้
5) ถั่วดำ ถือเป็นธัญพืชที่มีกากใยอาหารสูงมาก โดยถั่วดำต้มหรือนึ่ง 1 ถ้วย มีกากใยอาหารมากถึง 15 กรัม
6) สับปะรด เป็นผลไม้ที่มีกากใยอาหารสูงมาก มีเอนไซม์ตามธรรมชาติชื่อว่า บรอมีเลน (Bromelain) มีคุณสมบัติสามารถย่อยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ต่างๆ ได้ เช่น วัว หมู ไก่ ปลา ฯลฯ สามารถย่อยอาหารได้ทั้งในสภาวะเป็นกรดและด่าง จึงเหมาะมากที่จะช่วยย่อยอาหารในกระเพาะซึ่งมีสภาพที่เป็นกรด หากทานผลไม้ชนิดนี้เป็นประจำจะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี
7) มะละกอ สามารถรับประทานได้ทั้งแบบสุกและแบบดิบ มีสรรพคุณช่วยในการขับถ่าย มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ เหมาะกับผู้ที่มีอาการท้องผูกเป็นประจำ ลองนำมะละกอสุกไปแช่เย็น จะช่วยให้รสชาติดีขึ้นได้
8) เม็ดแมงลัก มีกากใยอาหารที่สูงมาก ใช้ปริมาณ 2 ช้อนชา แช่ในน้ำเปล่า 1 แก้ว (250 ซีซี) ปล่อยให้พองตัวเต็มที่ แล้วค่อยดื่มช่วงก่อนนอน จะช่วยให้การขับถ่ายได้ง่ายขึ้น เพราะแมงลักมีเมือกหล่อลื่น ช่วยให้อุจจาระอ่อนตัว แต่อย่างไรก็ตามการทานแมงลักต้องทานหลังจากพองตัวเต็มที่แล้วเท่านั้น หากทานในขณะที่ยังพองตัวไม่เต็มที่ เม็ดแมงลักจะไปดูดน้ำจากกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้อุจจาระแข็งและอุดตัน มีผลทำให้เกิดอาการท้องผูกมากยิ่งขึ้น
9) ขี้เหล็ก เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ใหญ่ ช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น เหมาะสำหรับผู้สูงอายุซึ่งนอนไม่ค่อยหลับ รับประทานอาหารไม่ค่อยได้ และมีอาการท้องผูก ให้นำใบอ่อนหรือดอกตูมมาประกอบอาหารรับประทาน หรือนำใบขี้เหล็ก 4-5 กำมือ มาต้มกับน้ำสะอาดพอท่วม แล้วใช้ดื่มก่อนนอน นอกจากจะช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้นแล้ว ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาการนอนไม่หลับได้อีกดวย
10) กล้วยน้ำว้าสุก เป็นผลไม้ที่มีสารเพกทิน (Pectin) สูง ช่วยเพิ่มกากใยอาหาร และยังมีเมือกลื่นทำให้ขับถ่ายได้สะดวกขึ้น ควรทานตอนเช้าขณะท้องว่าง 2-4 ผล แล้วดื่มน้ำตามให้มาก สามารถทานได้ทุกวัน
11) มะเฟือง ผลไม้รสเปรี้ยวชนิดนี้สามารถบรรเทาอาการท้องผูกได้เช่นกัน มะเฟืองมีฤทธิ์เป็นช่วยให้ระบาย และยังช่วยลดกรดในกระเพาะอาหารด้วย ให้ทานมะเฟือง 2-3 ลูก ขณะท้องว่าง
12) เมล็ดแฟลกซ์ (Flaxseed) อาจโรยลงในซีเรียล หรือสลัด เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะไปพองตัวในร่างกาย ช่วยดูดซึมของเหลว และไปเพิ่มกากใยอาหารในอุจจาระ ทำให้การขับถ่ายง่ายขึ้น
14) ชุมเห็ดเทศ เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เป็นยาระบายชั้นเลิศอีกตัวหนึ่ง โดยให้ใช้ดอกสดมาต้มทานกับน้ำพริก หรือนำใบสดมาหั่นแล้วตากแห้ง ใช้ต้มดื่มเป็นน้ำชาก็ได้
15) น้ำผึ้ง นำน้ำผึ้งผสมกับน้ำสะอาดแล้วดื่มเป็นประจำ จะช่วยคลายอาการท้องผูกได้ เนื่องจากมีฤทธิ์ช่วยให้ระบาย ในน้ำผึ้งมีอณูน้ำตาลสุขภาพอยู่มาก หากได้น้ำสะอาดผสมเข้าไปด้วย ก็จะช่วยให้กากใยอาหารอ่อนนุ่มลงแบบเป็นธรรมชาติ เมื่อทานเป็นประจำก็จะช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น
16) ว่านหางจรเข้ ปอกเปลือกออกให้เหลือเฉพาะวุ้นใสๆแล้วล้างด้วยน้ำสะอาด นำมาปั่นเป็น “น้ำว่านหางจรเข้” สำหรับดื่ม จะช่วยให้การทำงานของลำไส้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากในว่านหางจรเข้มีกากใยอาหารที่ดีต่อสุขภาพอยู่มาก
17) โยเกิร์ต เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับบุคคลทั่วไป มีมากมายหลายชนิด และมีหลากหลายรสชาติ สามารถเลือกทานได้ตามความชอบ เมื่อทานเป็นประจำจะช่วยให้การขับถ่ายคล่องขึ้น หลังจากทานโยเกิร์ตแล้ว ให้ดื่มน้ำตามมากๆจะช่วยให้ได้ผลดี
18) นมรสช็อกโกแลต สำหรับใครหลายคนที่ไม่ชอบการทานโยเกิร์ต การดื่มนมรสซ็อกโกแลตขณะท้องว่าง ก็สามารถช่วยให้การขับถ่ายคล่องและดีขึ้นได้เช่นกัน
ท่านสามารถเลือกอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งมาใช้แก้อาการท้องผูกกับตัวเอง หรือแนะนำให้กับคนรอบข้าง ลองนำไปใช้กันดูนะคะ หากเรามีระบบขับถ่ายที่ดี ของเสียที่อยู่ภายในร่างกายก็จะถูกขับออกมา กระเพาะอาหารและลำไส้จะสะอาด ผิวพรรณก็จะสดใส เปล่งปลั่ง และที่สำคัญหากระบบขับถ่ายดีแล้ว จะส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายโดยรวม จะเห็นได้ว่าทุกรายการที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น ล้วนมีประโยชน์ช่วยแก้อาการท้องผูก ก่อนนำพืชผักและผลไม้เหล่านี้ไปรับประทาน ควรล้างทำความสะอาดด้วยน้ำกลุ่มโมเลกุลเล็ก แช่ทิ้งไว้ 20-30 นาที จะช่วยดูดซับสารพิษตกค้างได้ และสุขภาพดีเริ่มต้นจากการดื่มน้ำแก้ว อย่าลืมเลือก iWater เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของท่านนะคะ
